ปางที่ ๑๘
ปางพระเกศธาตุ

 

ลักษณะของพระพุทธรูปปางนี้

อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา
ยกฝ่าพระหัตถ์ขวาขึ้นแนบพระเศียร เป็นกิริยาเสยพระเกศา

พระพุทธรูปปางนี้ มีตำนาน ดังนี้

เมือ่เสร็จการเสวยแล้ว ตปุสสะ ภัลลิกะ ทั้งสองพานิชจึงกราบทูลว่า ข้าแต่พระมีพระภาคเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสอง ขอถึงพระองค์กับพระธรรมเป็นสรณะ ขอพระองค์จงทราบว่า
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองเป็นอุบาสก ในพระพุทธศาสนาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าอวสานแห่งชีวิต
แล้วกราบทูลขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งควรแก่การอภิวาทในยามอนุสรณ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ในกาลเบื้องหน้าต่อไป

ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคทรงพระมหากรุณา จึงยกพระหัตถ์เบื้องขวาขึ้นลูบพระเศียรเกล้าฯ
ได้แก่พระเกศา เส้น นิยมเรียกว่า "พระเกตุธาตุ" แล้วทรงประทานพระเกศธาตุทั้ง เส้นนั้น
แก่พานิชทั้งสอง ตปุสสะ ภัลลิกะ น้อมรับเกศธาตุทั้ง ๘ องค์ ด้วยความโสมนัสเป็นอันมาก
แล้วกราบถวายบังคมลาไป

พานิชทั้งสองนั้น ได้เป็นปฐมอุบาสกในพระพุทธศาสนาตั้งอยู่ในเทววาจิกสรณคม คือ
ถึงพระพุทธเจ้าและพระธรรมทั้งสองเป็นสรณะ เพราะเวลานั้นยังไม่มีพระสงฆ์บังเกิดขึ้นในโลก
เมื่อพานิชทั้งสองนั้นเดินทางกลับถึงเมืองของตนแล้ว ได้สร้างพระสถูปบรรจุพระเกศาธาตุ ทั้ง เส้น
ไว้เป็นที่สักการบูชาของมหาชน .

 


จบตำนานพระพุทธรูป ปางพระเกศธาตุ แต่เพียงนี้ .