33

เรื่องกินยังไม่จบ

            เมื่อวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๓ พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงปู่พักอยู่ที่ วัดป่าประโคนชัย
เวลา ๒ ทุ่มผ่านไปแล้ว มีภิกษุกลุ่มหนึ่ง ซึ่งชอบเดินธุดงค์ไปตามที่ชุมนุมต่างๆ
ได้แวะเข้าไปพักที่วัดป่านั้นด้วย

            หลังจากแสดงความเคารวะตามสมณวิสัยแล้ว ก็กล่าวถึงจุดเด่น
ที่เขายึดถือเป็นหลักปฏิบัติว่า ผู้บริโภค เนื้อสัตว์คือผู้สนับสนุนให้คนฆ่าสัตว์
ผู้บริโภคผักมีจิตเมตตาสูง สามารถพิสูจน์ได้ว่า เมื่อหันไปบริโภคผักแล้ว จิตใจก็สงบเย็นดีขึ้น 

            หลวงปู่ว่า  “ดีทีเดียวแหละ ท่านผู้ใดสามารถฉันมังสวิรัติได้ก็เป็นการดีมาก
ขออนุโมทนาสาธุด้วย ส่วนท่าน ที่ยังฉันมังสะอยู่ หากมังสะเหล่านั้นเป็น
ของบริสุทธิ์โดยส่วนสามคือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สงสัยว่าเขาเจาะจงเรา
ได้มา ด้วยความบริสุทธิ์แล้วก็ไม่ผิดธรรมผิดวินัยแต่ประการใด อนึ่ง
ที่ว่าจิตใจสงบเยือกเย็นดีนั้น ก็เป็นผลเกิดขึ้น
จากพลังของการตั้งใจปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยไม่เกี่ยวกับอาหารใหม่
อาหารเก่า ที่อยู่ในท้องเลย”

 

การค้ากับการปฏิบัติธรรม

            พวกกระผมมีภาระหน้าที่ในการค้าขาย ซึ่งบางครั้งจะต้องพูดอะไรออกไป
เกินความเป็นจริงบ้าง ค้ากําไรเกิน ควรบ้าง
แต่กระผมก็มีความสนใจและเลื่อมใสในการปฏิบัติทางสมาธิภาวนาอย่างยิ่ง
แล้วก็ได้ลงมือปฏิบัติมาบ้างแล้ว โดยลำดับ
แต่บางท่านบอกว่าภาระหน้าที่อย่างผมนี้มาปฏิบัติภาวนาไม่ได้ผลหรอก 
หลวงปู่เห็นว่าอย่างไร เพราะเขา ว่าขายของเอากำไรก็เป็นบาปอยู่ 

            หลวงปู่ว่า  “เพื่อดำรงชีพอยู่ได้ ทุกคนจึงต้องมีอาชีพการงานและอาชีพการงาน
ทุกสาขาย่อมมีความถูกต้อง  ความเหมาะความควรอยู่ในตัวของมัน
เมื่อทำให้ถูกต้องพอเหมาะพอควรแล้ว ก็เป็นอัพยากตธรรม ไม่เป็นบาป
ไม่เป็นบุญแต่ประการใด ส่วนการประพฤติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ควรกระทำ
เพราะผู้ประพฤติธรรมเท่านั้น ย่อมสมควรแก่ การงานทุกกรณี”  

34

ความหลังยังฝังใจ

            ครั้งหนึ่งหลวงปู่ไปพักผ่อนที่วัดป่าโยธาประสิทธิ์ พระเณร
จำนวนมากมากราบนมัสการหลวงปู่ ฟังโอวาทของ หลวงปู่ แล้วหลวงตาพลอย
ผู้บวชเมื่อแก่ แต่สำรวมดี ได้ปรารภถึงตนเองว่า กระผมบวชมาก็นานพอสมควรแล้ว ยังไม่อาจตัดห่วงอาลัยในอดีตได้แม้จะตั้งใจอย่างไรก็ยังเผลอจนได้ขอทราบอุบายวิธีอย่างอื่น
เพื่อปฏิบัติตามแนวนี้    ต่อไปด้วยครับกระผม 

            หลวงปู่ว่า  “อย่าให้จิตแล่นไปสู่อารมณ์ภายนอก ถ้าเผลอ
เมื่อรู้ตัวให้รีบดึงกลับมา อย่าปล่อยให้มันรู้อารมณ์ ดีหรือชั่ว สุขหรือทุกข์
ไม่คล้อยตาม และไม่หักหาญ”  

 

หลวงปู่กับเกจิอาจารย์

            เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๕๒๐ หลวงปู่รับนิมนต์ไปร่วมพิธีกรรมที่วัดธรรมมงคล สุขุมวิท
ในงานนี้ท่านรับนิมนต์ เข้าไปนั่งปรกในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลด้วย เมื่อเสร็จพิธีแล้ว
ออกมานั่ง พักที่กุฏิเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง สนทนากับเหล่าศิษยานุศิษย์
ที่ศึกษาเล่าเรียนอยู่ในกรุงเทพ ฯ เป็นจำนวน หลายรูป
และคงจะมีรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อก่อนไม่เคยเห็น หลวงปู่เข้าพิธีพุทธาภิเษก
เพิ่งเห็นครั้งนี้เอง เช่นนี้กระมัง

            หลวงปู่จึงว่า  “อาจารย์องค์อื่นๆ เขานั่งปรกนั่งพุทธาภิเษกอย่างไรเราไม่รู้
ส่วนตัวเรานั่งทำสมาธิอย่างเดียว ตามแบบฉบับของเรา”  

35

อยากเรียนเก่ง

            หนูได้ฟังคุณตาสรศักดิ์ กองสุข แนะนำว่า ถ้าใครต้องการเรียนเก่งและฉลาด
ต้องหัดนั่งภาวนาทำสมาธิให้ ใจสงบเสียก่อน หนูอยากเรียนเก่งเรียนฉลาดอย่างเขา จึงพยายามนั่งภาวนาทำใจให้สงบ แต่ใจมันก็ไม่ยอมสงบสักที
บางทีก็ยิ่งทวีความฟุ้งซ่านมากขึ้นก็มี เมื่อใจไม่สงบเช่นนี้ ทำอย่างไรจึงจะเรียนเก่งเจ้าคะ 

            หลวงปู่ว่า   “เรียนอะไร ก็ให้มันรู้อันนั้น เดี๋ยวก็เก่งเองแหละ”
ที่ใจไม่สงบก็ให้รู้ว่ามันไม่สงบ เพราะอยากสงบ มันจึงไม่สงบ
ขอให้พยายามภาวนาเรื่อย ๆ ไปเถอะ สักวันหนึ่งก็จะได้สงบตามต้องการ" 

 

ไปธุดงค์เพื่ออะไร

            พระเณรบางกลุ่มหลังจากออกพรรษาแล้ว นิยมพากันออกเที่ยวธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ
มีการตระเตรียมบริขาร หรือชุดธุดงค์กันอย่างครบเครื่อง
แต่ในการไปนั้นมีอยู่หลายรูปที่ไปแบบผิดเป้าหมาย เช่น ทรงเครื่องกัมมัฏฐาน
ไปรถทัวร์รถไฟบ้าง เที่ยวไปเยี่ยมเพื่อนฝูงตามสำนักงานต่าง ๆ บ้าง

            หลวงปู่จึงกล่าวท่ามกลางคณะกัมมัฏฐานว่า

            “การกระทำตนเป็นพระธุดงค์รูปงามนั้นย่อมไม่ควรผิดวัตถุประสงค์ของ
การเดินธุดงค์ ทุกองค์พึงสำเหนียก ให้มากว่า การประพฤติธุดงค์กัมมัฏฐานนั้น
มุ่งการฝึกฝนขัดเกลาจิตใจ ให้ปราศจากกิเลสประการเดียวเท่านั้น
การไปธุดงค์กัมมัฏฐานแต่ตัวส่วนใจไม่ไปนั้น ไม่เป็นการประเสริฐเลย”