หลวงปู่ฝากไว้

บันทึกคติธรรมและธรรมเทศนา

ของ

พระราชวุฒาจารย์

( หลวงปู่ดูลย์  อตุโล )

วัดบูรพาราม  อ.เมือง  จ.สุรินทร์    

โดย

พระครูนันทปัญญาภรณ์    

01

คำสังเขปประวัติ   

แท้จริงหลวงปู่เกิดปีชวด วันที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๑ ณ บ้านปราสาท ตำบลเฉนียง  อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เมื่ออายุได้ ๒๒ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดจุมพลสุทธาวาส สมัยนั้นที่จังหวัดสุรินทร์ยังไม่มีการเรียน การสอนปริยัติธรรม ท่านจึงลาอุปัชฌาย์เดินทางโดยทางเท้า ไปอยู่ที่วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เรียนปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมตรีเป็นรุ่นแรก แล้วเรียนบาลีไวยากรณ์ต่อ ถึงแปลมูลกัจจายน์ได้ ฯ ในพรรษาต่อมา ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งเป็นอาจารย์ฝ่ายธุดงค์กัมมัฏฐาน ท่านมาพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา  เมื่อหลวงปู่ได้ไปกราบนมัสการและได้ฟังธรรมของท่านเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก็เกิดความอัศจรรย์ใจและศรัทธา จึงตัดสินใจเลิกละการเรียนปริยัติธรรมเสีย แล้วออกธุดงค์ตามท่านอาจารย์มั่นต่อไป จึงนับได้ว่า หลวงปู่เป็นศิษย์ท่าน  อาจารย์มั่น ในสมัยแรกและได้ร่วมเดินธุดงค์ตามท่านไปในที่ต่างๆ ต่อสู่กับดงป่า สิงสาราสัตว์  ตลอดถึงจนไข้ป่านานาชนิด อุทิศชีวิตเพื่อพระศาสนาอย่างแท้จริง สิริรวมอายุได้ ๙๖ ปี ๒๖ วัน

                                                                                                                                              02  
คำสั่งของผู้บัญชา – คณะสงฆ์   

            หลังจากหลวงปู่เที่ยวธุดงค์ไปทั่วภาคอิสาน กระทั่งข้ามไปถึงฝั่งลาวและเขมร ตลอดถึงภาคกลางแถวสระบุรี ลพบุรี รวมเวลาเที่ยวธุดงค์อยู่ตามป่านานถึง ๑๙ ปี ล่วงแล้วก็ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการคณะสงฆ์  ให้หลวงปู่ เดินทางไปประจำอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินการศึกษาปริยัติธรรม และเผยแพร่  ข้อปฏิบัติทางกัมมัฏฐาน ไปด้วยกัน  หลวงปู่จึงจำใจเดินทางไปประจำอยู่ที่วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๗ นับแต่บัดนั้นมา แสงแห่งรัศมีของพระธรรม ทั้งทางปริยัติ และทางปฏิบัติก็เริ่มรุ่งเรืองตลอดมา โดยหลวงปู่รับภาระ ทั้งฝ่ายคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ บริหารงานพระศาสนาอย่างเต็มกำลังสามารถ ในปฏิปทาส่วนตัวของท่านก็ไมเคยละทิ้งกิจธุดงค์ บำเพ็ญเพียรทางใจตลอดมาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งอบรมทางสมาธิ ภาวนา แก่ผู้สนใจปฏิบัติ ทั้งทางคฤหัสถ์ ์และบรรพชิต  จนขยายวงกว้างแห่งสำนักวิปัสสนาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ชื่อเสียงเกียรติคุณของท่าน  จึงแผ่ไพศาลไปทั่วสารทิศ ภารกิจจึงยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งภาระในหน้าที่เจ้าคณะ พระอุปัชฌาย์  อาจารย์ ตลอดถึงภาระในพิธีต่างๆ ทั้งราชพิธี รัฐพิธี และพิธีของเอกชนทั่วไป ด้วยเหตุที่ท่านมีเมตตาธรรมสูง จึงช่วย สงเคราะห ์บุคคลทั่วไปได้อย่างกว้างขวาง โดยไม่ได้เลือกชั้นวรรณะ ฯ เดชะบุญที่หลวงปู่ท่าน มีสุขภาพอนามัยดี ีเป็นเยี่ยม แข็งแรง ว่องไว ผิวพรรณผ่องใส  มีเมตตาเป็นอารมณ์ สงบเสงี่ยม เยือกเย็นทำให้ผู้ใกล้ชิด และผู้ได้ไป กราบไหว้บูชา เกิดความเคารพนับถืออย่างสนิทใจ